วิ ธีเ พ า ะถั่วงอ กแบบใหม่ในกระติก 3 วันเอามากินได้แล้ว

ถั่วงอ ก คือ ต้นถั่วที่มีรากงอ กมาจากเมล็ดถั่วดำ ถั่วเขียว ถั่วลันเตา และถั่วเหลือง ถั่วงอ กหัวโต จัดว่าเป็นผักชนิดหนึ่ง ผักที่หล า ย ๆ คนอาจจะไม่ชอบกินและมักจะเขี่ยทิ้ง เพราะมีกลิ่นเฝื่อนและมีรสฝาดเฉพาะตัว ซึ่งถั่วงอ กที่เ พ า ะมาจากถั่วดำหรือถั่วเขียวจะมีวิต ามินและเกลือแร่สูง ส่วนถั่วงอ กที่เ พ า ะมาจากถั่วเหลืองจะมีโปรตีนและไขมันสูง ซึ่งประเทศแรกของโลกที่มีการเ พ า ะถั่วงอ กหัวโตก็คือประเทศจีน

ถั่วงอ กสามารถเ พ า ะได้หลากหล า ยวิ ธีและใช้เวลาน้อยไม่เกิน 3 วันก็สามารถกินได้แล้ว วันนี้ขอเสนอวิ ธีเ พ า ะถั่วงอ กแบบใหม่ นั่นคือ การเ พ า ะในกระติกน้ำ นั่นเองค่ะ โดยคุณสมบัติของกระติกน้ำจะช่วยเก็บความเย็นและรั ก ษ าอุณหภูมิความชื้นได้เป็นอ ย่ างดีจึงเหมาะอ ย่ างยิ่งในการนำมาเ พ า ะถั่วงอ กค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. กระติกน้ำ

2.ถุงต าข่าย

3.เมล็ดถั่วเขียวพันธุ์ดี

4. น้ำส ะ อ า ด

วิ ธีการเ พ า ะถั่วงอ กในกระติก

1. เริ่มขั้ น ต อ นแรกด้วยการนำเมล็ดถั่วเขียวพันธุ์ดีมาแช่น้ำอุ่นเป็นเวลา 1 คืน เมื่อครบเวลาแล้วให้เลือ กเอาแต่เมล็ดจมมาใช้ส่วนเมล็ดที่ลอยน้ำให้คัดทิ้งไป

2. จากนั้นให้นำเมล็ดถั่วเขียวใส่ถุงต าข่ายโดยใส่ปริมาณ 1/4 ของถุงต าข่าย แล้วมัดถุงต าข่ายส่วนปล า ยไว้เพื่อรองรับการงอ กของถั่วงอ ก

3. ขั้นต่อมาให้นำกระติกมาใส่ตะกร้าเล็กๆไว้ที่ก้นกระติกเแล้วใส่ถุงต าข่ายที่บรรจุเมล็ดถั่วเขียวแล้วลงไปกึ่งกลางกระติกแล้วปิดฝาให้สนิทนำไปตั้งไว้ในอุณหภูมิห้อง

4. เมื่อเวลาผ่านไป 1 วัน ให้เปิดฝากระติกแล้วค่อยๆนำถุงต าข่ายออ กมา ในช่วงนี้จะพบว่าเมล็ดถั่วเขียวเริ่มงอ กและมีรากอ่อนออ กมาให้เห็น แล้วจึงนำกะละมังใส่น้ำและให้แช่ถุงต าข่ายเ พ า ะเมล็ดลงไปประมาณ 20 วินาที แล้วนำขึ้น มาใส่กระติกปิดฝาไว้ดังเดิม

5. เมื่อเวลาผ่านไป 2 วัน ให้ทำนำถุงต าข่ายออ กมาและแช่น้ำทำขั้ น ต อ นเหมือนกับวันแรก โดยวันนี้จะสังเกตว่าถั่วงอ กเริ่มแ ท งลำต้นข า วอวบออ กมาเริ่มเต็มถุง

6. เมื่อเวลาผ่านไป 3 วัน เมื่อนำถุงต าข่ายออ กมาก็จะพบว่าถั่วงอ ก งอ กตุงถุงต าข่ายและโตเต็มที่พร้อมรับประทานแล้ว

7. ให้ค่อยๆแกะถุงต าข่ายออ กและนำถั่วงอ กภายในออ กมา ซึ่งจะพบว่าการปลูกถั่วงอ กวิ ธีนี้ได้ผลดีได้ถั่งอ กอวบข า วไม่เน่าเนื่องจากกระติกสามารถรั ก ษ าอุณหภูมิภายในได้ดี เป็นการเ พ า ะถั่วงอ กวิ ธีใหม่ที่ได้ผลดีและง่ายมากๆ ใครมีกระติกน้ำก็ลองไปทำกันดูค่ะ

ที่มา Postnoname