วิ ธีปลูกข้าวโพดหวาน จากชาวสวน ให้ฝักโต งามไว ข า ยได้ร า ค าดี

วันนี้เราจะพาคุรไปดูการปลูกข้าวโพดหวาน ให้งามไว ฝักใหญ่ ซึ่งเป็นเคล็ดลับจากสวนใหญ่ ที่ทำแล้วได้ผลดี ใครที่อย ากปลูกก็สามารถลองนำวิ ธีที่เรานำมาฝากนี้ไปลองปลูกกันได้เลย ว่าแต่จะมีวิ ธีดูแล ปลูกยังไงเราไปดูกันเลย

มาเริ่มที่การเตรียมดินปลูกกันได้เลย ข้าวโพดหวานนั้นนำไปทานคู่กับอะไรก็ได้ ทำเป็นของหวานก็แจ่มมาก จะทานข้าวโพดต้มเฉย ๆ ยังอร่อยมากเลย หรือ กับเมนูของคาวก็รอ ดเหมือนกัน วันนี้เรามีไอเดียการปลูกข้าวโพดหวาน มาฝาก ให้ทุกคนนำไปทำต ามกันได้เลย

ดินปลูกนั้นให้ใช้เป็นดินที่ระบายน้ำได้ดี จะต้องทำการไถดะก่อนแล้วต ากดินไว้สัก 5 วัน แล้วค่อยทำการไถแปร เป็นการย่อยดินอีกที ทำให้ดินแตกละเอียดไม่เป็นก้อนใหญ่

พอ ดินย่อยดีแล้วจะทำให้อัตราการงอ กของเมล็ดนั้นดีขึ้น และให้หว่านปุ๋ ย ค อ กไปด้วย ในอัตราส่วน 1 ตัน/ไร่ หว่านก่อนการไถแปรเป็นการปรับโครงสร้างดินให้สามารถอุ้มน้ำได้ดีและเป็นการเพิ่มธาตุอาหารด้วย

การปลูกข้าวโพดหวาน

สำหรับการปลูกแบบแถวเดี่ยวนั้นให้เว้นระยะห่างระหว่างแถวที่ 75 เซนติเมตร ระยะห่าง

ระหว่างต้นที่ 25 – 30 เซนติเมตร แล้วให้ปลูกลง 1 ต้น/หลุม ซึ่งก็จะได้ 7,000 – 8,500 ต้น/ไร่ จะใช้เมล็ดประมาณ 1.0 – 1.5 กิโลกรัม/ไร่

สำหรับการปลูกแถวคู่นั้นให้ทำการยกร่องขึ้น 120 เซนติเมตร แล้วปลูกเป็น 2 แถวข้างร่อง

ระยะห่างกัน 30 เซนติเมตรระยะห่าง 25 – 30 เซนติเมตร 1 ต้น/หลุม ซึ่งก็จะได้ประมาณ 7,000 – 8,500 ต้น/ไร่ จะใช้เมล็ดที่ประมาณ 1.0 – 1.5 กิโลกรัม/ไร่

การใส่ปุ๋ ยให้น้ำข้าวโพดหวาน

สำหรับ ปุ๋ ยนั้นแนะนำให้ใช้เป็นสู ต ร 15 – 15 – 15 หรือ 25 – 7 – 7 หรือ 16 – 16 – 8 โดยใส่ในอัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่ โดยให้ใส่พร้อมปลูกหรือในขั้นตอนการเตรียมดินได้เลย

เป็นการเพิ่มธาตุอาหารให้แก่ต้นข้าวโพดได้เจริญเติบโตได้ดี ในส่วนของการให้น้ำนั้นปล่อยไหลไปต ามร่องข้าวโพดได้เลย ให้น้ำซึมลงดินไปเองให้เพียงพอ

สำหรับการปลูกข้าวโพดหวานนั้นถ้าหากหยอ ดลงหลุมเลยก็ให้หยอ ดปุ๋ ยที่ก้ นหลุมก่อนแล้วกลบดินบาง ๆ จากนั้นค่อยหยอ ดเมล็ดข้าวโพดปลูกปกติต่อไป และอ ย่ าให้เมล็ดได้สัมผัสกับปุ๋ ยโดยตรงเพราะจะทำให้เมล็ดเน่าได้

สำหรับ ปุ๋ ยใส่แต่งหน้าครั้งที่ 1 ก็ใช้เป็นสู ต ร 46 – 0 – 0 ในอัตรา 25 – 30 กิโลกรัม/ไร่ โดยใส่ตอนข้าวโพดอายุได้ 20 – 25 วันก็โรยใส่รอบ ๆ โคนต้น และพออายุได้ 40 – 45 วัน หลังการปลูกก็ใส่เป็นครั้งที่ 2 ในสู ต รเดิมอัตรา 25 กรัม/ไร่ โดยใส่ในขณะที่ดิน มีความชื้น

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือ การกำจัดวัชพืช อ ย่ าให้มีมาก่อ กวนโดยเด็ดข า ดเลย เพราะว่าจะเป็นตัวแย่งอาหารของข้าวโพดเ สี ยเองอาจจะฉ ีด ย า ที่คุมวั ช พื ช ไว้ก็ได้

ย้ำในด้านการให้น้ำอีกครั้ง อ ย่ าให้ข า ดน้ำเด็ดข า ดโดยเฉพาะในระยะ 7 วันแรกหลังการปลูกเพราะว่าจะทำให้ไม่โตและต้นไม้สมบูรณ์ได้ และอัตราการงอ กก็ไม่ดีด้วย ฉะนั้นแล้วน้ำต้องสม่ำเสมออ ย่ าให้ข า ดเลย และยิ่งเป็นช่วงกำลังติ ด ด อ กยิ่งจะต้องมีน้ำให้เพียงพอ

หากเราปล่อยให้ต้นข้าวโพดหวานข า ดน้ำจะทำให้การผสมเกสรไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้ไม่ติดเมล็ดหรือติดแต่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ฝักที่ออ กมาไม่สวยเมล็ดไม่เรียงตัว ปกติแล้วเราควรจะให้น้ำข้าวโพดได้ 3 – 5 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพของต้นข้าวโพดด้วยและสภาพอากาศด้วย สังเกตดินให้ดีหากเริ่มแห้งแล้วจะต้องมีน้ำให้

การเก็บเกี่ยวข้าวโพด

พอเราปลูกข้าวโพดไปได้ประมาณ 70 – 75 วันก็สามารถทยอยเก็บเกี่ยวได้แล้ว แต่ก็เก็บได้ตั้งแต่ระยะ 18 – 20 วันหลังข้าวโพดออ กไหม 50เปอร์เซน ข้าวโพด 100 ต้น มีไหม 50 ต้น แต่สำหรับสายพันธุ์ไฮบริกซ์ 10 จะเก็บเกี่ยวได้ในช่วงอายุ 68 – 70 วัน

ปัญหาก่อ กวนข้าวโพดหวานที่อาจจะเจอ

โ ร ค ร าน้ำค้าง เป็นอีกอย่ า งที่มักจะมาก่อ กวนต้นพืชรวมถึงต้นข้าวโพดหวานด้วย แต่ส่วน มากเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดก็ได้คลุกผสมย าป้ องกันโ ร คราน้ำค้างมาให้แล้ว อาจจะโดนรบกวนน้อยลงกว่าสมัยก่อนเยอะเลย แต่ว่าหากเราปลูกผิ ดวิ ธีโ ร ค ร าน้ำค้างนี้ก็จะกลับมาร ะ บ า ดอีกเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ชอบแช่เมล็ดก่อนปลูกส า รเคลือบกันรานั้นจะหลุดไปทำให้เน่าได้ง่าย

1 ห น อ น ฝั กข้าวโพด

ในบางช่วงจะมีหนอนร ะ บ า ดหนักเหมือนกัน โดยมันจะมาเจาะฝักข้าวโพด ทำให้มีตำหนิไม่เป็นที่ต้องการของตลาดทำให้ข า ยไม่ได้ร า ค า ฉะนั้นเราจะต้องคอยหมั่นตรวจสอบและให้ใช้เป็นย าฟ ลูเฟนนอ กซูรอนหรือฟิโบรนิลในอัตรา 20 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร เข้ามาฉีดพ่นที่ฝักเลย 1 – 2 ครั้งห่างกัน 7 วัน

2 ปัญหาเ พ ลี้ ย ไ ฟ

ตั วร้ า ยไม่เบาเลยสำหรับเ พ ลี้ ยไ ฟ จะเป็น แ ม ล งตัวเล็ก ๆ มักจะไปเกาะกินน้ำเลี้ยงที่อยู่ในฝักข้าวโพด ฝัก จะ ฝ่อ และไม่เป็นที่ต้องก ารของตลาด

3 เปลือ กหุ้มฝักเ ห ลือง

ในการเก็บเกี่ยวนั้นอายุเกิน 20 วันหลังออ กไหม 50เปอร์เซน จะทำให้เปลือ กหุ้มสีเขียวอ่อนจะเหมือนฝักแก่ บางทีแม้ว่าตอนเราเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสมนั้นเปลือ กก็ยังทำให้เปลือ ก

มีสีเหลืองได้อยู่ดี วิ ธีแก้ก็จะใช้เป็น ปุ๋ ย ยู เ รี ยสู ต ร 46 – 0 – 0 ในอัตรา 15 – 20 กิโลกรัม/ไร่ ให้นำไปโรยข้าง ๆ ต้นข้าวโพดในขณะดิน มีความชื้นในช่วงระยะที่ข้าวโพดออ ก ด อ กจะทำให้เปลือ กหุ้ม

ฝักมีสีเขียวได้นาน มากกว่าเดิม สำหรับใครที่สนใจอ ย า กจะปลูกข้าวโพดหวานข า ย เป็นที่ต้องการของตลาดปลูกแล้วได้ฝักอวบ ๆ สวย ๆ ก็มาลองทำต ามที่แนะนำข้างต้นได้เลย

ที่มา  kasetchaoban