ปลูกแก้วมังกร ผลด ก หวานอร่อย

แก้วมังกรเป็นที่นิยมปลูกกัน มาก สังเกตุจากต ามท้องตลาด จะมีแม่ค้าข า ยแก้วมังกรเยอะหล า ยเจ้าเลยทีเดียว แต่ๆๆ จะบอ กว่าเวลาไปซื้ อมาทานทีไร ไม่ค่อยได้แก้วมังกรที่มีรสชาติหวานสักเท่าไหร่ แต่วันนี้เรามีวิ ธีปลูกแก้วมังกรให้มีรสหวาน มาฝากเพื่อนๆ จะทำอ ย่ างไรไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

การปลูกแก้วมังกร

หลักปลูก ๑ หลัก ปลูกแก้วมังกรได้ ๓-๔ ต้น (จำนวนต้นขึ้นอยู่กับผู้ปลูกจะพิจารณา) โดยกระจายการปลูกให้ห่างเท่าๆ กัน และห่างจากหลัก ปลูก ๒๐-๒๕ เซนติเมตร หลุมปลูกควรขุดขนาด ๓๐x๓๐ เซนติเมตร และลึก ๓๐ เซนติเมตร ดินปลูก ควรผสมด้วยแกลบดำและปุ๋ ยห มั ก อ ย่ างละ ๑ ถังปูน ปลูกต้นที่เตรียมไว้ตรงกลางหลุม การปลูกต้องปลูกไม่ลึก ให้ปลูก ตื้น ไว้ แต่ไม่ควรให้รากลอย

อาจมีกิ่งไม้ปักเป็นหลักที่โคนต้น แล้วผูกต้นให้แนบกับหลัก การย้ายต้ลงหลุมปลูกควรระมัดระวังไม่ให้กระทบกระเทือนระบบรากมากจนเกินไป หลังปลูกให้รดน้ำทันที แล้วหาวัสดุ เช่น กิ่งไม้ ใบไม้ ทางมะพร้าว หรือต าข่ายพรางแสง (ซาแลน) 60เปอร์เซน มาบังแดดให้ประมาณ ๗ วัน

การดูแลรั ก ษ าหลังปลูก

ระยะแรกของการเจริญเติบโตต้นแก้วมังกรเจริญเติบโตเร็ว หากมีการดูแลเอาใจใส่อ ย่ างดี ยอ ดสามารถขึ้นบนร้านได้ในเวลา ๓ เดือน

การให้น้ำด้วยระบบสปริงเกลอร์

การให้น้ำ การปฏิบัติที่ดีทางการเกษตรได้ กำหนดให้น้ำเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาอันดับแรก คุณภาพขอ งน้ำมี ความ สำคั ญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปริมาณที่พอ ดีฉะนั้นจึงควรรั ก ษ าดินให้มีความชื้นส ม่ำเสมอ เพื่อ การเจริญเติบโตของแก้วมังกร จะได้ไม่หยุดชะงัก เมื่อฝนแล้งหรือในฤดูแล้ง ควรให้น้ำทุกๆ ๓-๗ วัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของดิน การคลุมดิน อุณหภูมิอากาศ และสภาพแวดล้อม เมื่อให้ปุ๋ ย ก็ต้องให้น้ำควบคู่กันไปเสมอ

การให้ปุ๋ ย

หลังจากปลูกต้นแก้วมังกรได้ประมาณ ๒ สัปดาห์ ผู้ปลูกก็สามารถให้สู ต รเสมอ เช่น ๑๖-๑๖-๑๖ หรืออาจใช้ปุ๋ ย สู ต รที่มีธาตุไนโตรเจนปริมาณมาก และมีฟอสฟอรัสปริมาณน้อย ใส่หลักละ ๑๕-๒๐ กรัมต่อเดือน เมื่อหมดหน้าฝน และเข้าสู่หน้าแล้ง ประมาณเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ควรพรวนดินเบาๆ รอบใต้พุ่มต้น และใส่ปุ๋ ย ห มั กหลักละประมาณ ๕ กิโลกรัม และใส่ซ้ำอีกครั้งในเดือนกุมภาพั นธ์-มีนาคม เมื่อแก้วมังกรมีอายุมากขึ้น จนอายุครบ ๑ ปี ก็ให้ใส่ต้นเพิ่มต ามอายุ โดยให้ต่อหลักและต่อเดือน ต ามกำหนดดังนี้

อายุ ๑.๐-๑.๕ ปี ให้ปุ๋ ย ๓๐-๔๐ กรัม

อายุ ๑.๕-๒.๐ ปี ให้ปุ๋ ย ๕๐-๖๐ กรัม

อายุ ๒.๐-๓.๐ ปี ให้ปุ๋ ย ๘๐-๑๐๐ กรัม

การให้ปุ๋ ย ในช่วงออ กดอ กและติดผล

ใช้ปุ๋ ย สู ต ร ๑๓-๑๓-๒๑ ซึ่งเชื่อ กันว่า ช่วยให้ผลแก้วมังกร มีรสชาติหวาน มากขึ้น ทั้งนี้ ควรให้ก่อนออ กดอ กประมาณ ๑-๒ เดือน สวนบางแห่งพบผลแก้วมังกรมีอาการผิ ดปกติ คือ เมื่อผ่าผล จะพบเมล็ด กระจุกตัวตรงศูนย์กลางของผล ไม่ได้กระจายตัวเหมือนผลแก้วมังกรทั่วไป ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้ ในกรณีที่แก้วมังกรให้ผลด กควรพิจารณาใส่ ปุ๋ ยเพิ่มเป็นพิเศษ อาจใส่ในปริมาณเพิ่มกว่าปกติร้อยละ ๒๕-๕๐ โดยต้องมีการ บำรุงต้นให้สมบูรณ์แข็งแรงก่อนออ กดอ กเสมอ

การออ กดอ กในฤดู

ถ้าปลูกแก้วมังกรต้นที่ดี แข็งแรง และเจริญเติบโตดี แก้วมังกรอาจออ กดอ กเมื่อปลูกไปได้เพียง ๖ เดือน ทั้งนี้ ต้องได้รับการกระตุ้นให้เกิดต าดอ กด้วยความย า วของกลางวันที่นานเพียงพอ ในภาคกลาง แก้วมังกรจะออ กดอ กต ามธรรมชาติ ประมาณช่วงสงกรานต์ ดอ กเกิดใหม่ซึ่งพัฒนาจาก ลำต้นจริงจะดันกลุ่มหนามโผล่ขึ้น มา มีขนาดใกล้เคียงเมล็ดถั่วเหลือง เรียกว่า ตุ่มดอ ก

ตุ่มดอ ก จะเจริญเป็นดอ กที่พร้อมจะบาน มีรูปร่างคล้ายดอ กจำปี ย าว ๒๐-๒๕ เซนติเมตร และเมื่ออายุได้ประมาณ ๑๕ วัน ดอ กจะเริ่มบานช่วงเวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. ดอ กบาน มีลักษณะคล้ายแตร โดยบานอยู่เพียงคืนเดียว รุ่งเช้าก็หุบ ถือว่า แก้วมังกรติดผลสำเร็จแล้ว

การเจริญเติบโตของผล

ผลแก้วมังกรที่เกิดใหม่มีผิวสีเขียว เจริญเติบโตเร็วมาก หลังดอ กบาน ๒๕-๒๗ วัน สีของเปลือ กเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียว เป็นสีแดงเรื่อๆ ในช่วงนี้มีรสชาติหวานน้อย-เปรี้ยวมาก และต่อมา ๓-๕ วัน เปลือ กก็พัฒนาเป็นสีแดงอมชมพู มีรสชาติหวาน มากขึ้นและเปรี้ยวลดลง ซึ่งเป็นดัชนีที่ใช้พิจารณาตัดสินในการเก็บเกี่ยวผลได้ ถ้าปล่อยผลไว้นานกว่านี้ ผลก็จะแก่มากขึ้นและงอม

การเก็บเกี่ยวผล

ในการเก็บเกี่ยวผล ถ้าต้องการให้มีรสชาติอมเปรี้ยวบ้าง ควรพิจารณาเก็บเกี่ยวผลที่ยังแก่ไม่เต็มที่ เนื่องจาก ผลแก้วมังกรมีขั้วผลสั้น มาก ผลจึงติดแนบชิด กับกิ่งมาก ถ้าตัด กิ่งธรรมดาก็ต้องตัด ๒-๓ ครั้ง อาจทำให้กิ่งเ สี ยห า ยเครื่องมือที่ใช้ต้องสะอาดปลอ ดภั ย ควรตัดเพียงครั้งเดียว

ที่มา jo-workman  sangkomonline