สำหรับเพื่อนๆที่ขับรถเป็นวันนี้เรามีความรู้ดีๆนำมาบอ กกันถึงการเอาตัวรอ ดเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น นั่นคือคันเร่งค้างนั่นเอง เ พ ร า ะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเกิดขึ้นกับเราตอนไหน แต่สิ่งที่เราควรศึกษาไว้คือทักษะในการเอาตัวรอ ดเมื่อเหตุเกิดขึ้นกับเราเพื่อให้เราหรือคนที่ไปกับเรานั้นปลอ ดภั ย
การขับขี่รถในปัจจุบันนั้น มักต้องใช้ความชำนาญ บวกกับสติและระมัดระวังอย่ างเต็มที่ เ พ ร า ะด้วยจำนวนรถราที่มีมากขึ้นทุกวัน ส่งผลให้เกิดอุ บัติเห ตุได้ง่าย รวมถึงสิ่งสำคัญอย่ างการหมั่นตรวจเช็คสภาพรถก็เช่นกัน เ พ ร า ะแม้อุ บั ติเห ตุจะไม่เกิดจากเรา หรือรถของผู้อื่น ก็อาจเกิดขึ้นได้จากการที่เครื่องยนต์ขัดข้อง อันเป็นผลต่อเนื่องมากจากการดูแลรั กษ ารถที่ใช้งานอยู่เป็นประจำนั่นเอง แต่ปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ที่น่ากลัวและอัน ตร ายมากที่สุดคือ คันเร่งเครื่องยนต์ค้างในขณะที่กำลังขับขี่อยู่ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหล า ยสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเ พ ร า ะ ระบบเครื่องยนต์มีปัญหา หรือแม้แต่มีสิ่งของไปค้างติดอยู่ เช่น ขวดน้ำ รองเท้า หากเกิดปัญหานี้ มีวิ ธีแก้ไขเฉพาะหน้าที่ควรทำต าม ดังนี้
1 ตั้งสติก่อน เ พ ร า ะยิ่งผู้ขับขี่ตกใจเมื่อคันเร่งค้าง แล้วยิ่งพาลดับเครื่อง หรือเหยียบเบรคในทันที จะยิ่งทำให้เกิดอันต รายมากขึ้นกว่าเดิม โดยให้รีบใส่เกียร์ว่าง หรือเกียร์ N ก่อน แล้วค่อยแตะเบรกย้ำๆ แบบเบาๆ ห้ามเหยียบเบรกแรงทันที เ พ ร า ะจะยิ่งทำให้รถกระชากจนพลิกคว่ำได้ หรือแม้แต่การดับเครื่องยนต์ในทันที จะเป็นการทำให้พวงมาลัยที่ควบคุมทิศทางของรถล็อค และไม่สามารควบคุมรถได้
2 เมื่อชะลอความเร็วรถได้ในระดับหนึ่งแล้ว ให้ค่อยๆ ประคองรถเข้าข้างทางแล้วดับเครื่องยนต์ แล้วติดต่อช่างยนต์มาดูทันที อย่ าฝืนขับต่อ เ พ ร า ะอาจยิ่งเกิดอั นตรายมากกว่าเดิมได้
สิ่งสำคัญหากเกิดปัญหา คันเร่งค้าง นั้น คือ สติ และหากเหยียบเบรกแรงทันที หรือเข้าเบรกมือไว้ เ พ ร า ะนอ กจากรถจะไม่เคลื่อนที่แล้ว ยังทำให้เกิดปัญหาอย่ างรถชนพลิกคว่ำได้อีกด้วย โดย 3 คำหลักที่ต้องจำให้ขึ้นใจ หากเจอ กับปัญหา คันเร่งค้าง คือ เข้าเกียร์ว่าง แตะเบรกเบาๆ และอย่ าดับเครื่องโดยเด็ดข า ด จนกว่าจะประคองความเร็วรถลงได้ และนำรถชะลอจอ ดเทียบที่ข้างทางได้ สาเหตุที่มักจะทำให้คันเร่งค้างนั้น มีคร่าวๆ อย่ างเช่น
1 คันเร่งจม เ พ ร า ะเบรกแข็งเกินไป
2 ระบบเบรกเ สี ย ทำให้ไม่สามารถควบคุมความเร็วได้
3 มีขวดน้ำเข้าไปติดใต้คันเร่ง ทำให้คันเร่งเกิดค้างและไม่สามารถเหยียบเบรกได้
4 ใส่รองเท้าส้นสุงขับรถ หรือแม้แต่การถอ ดรองเท้าขับรถก็เช่นกัน เ พ ร า ะจะทำให้การขับขี่ย ากขึ้น หรือส้นรองเท้าอาจเข้าไปติดจนทำให้คันเร่งค้างได้เช่นกัน
5 ตกใจกับสิ่งอื่น หรือรถคันหน้าแล้วเข้าใจว่าคันเร่งเป็นเบรก
อย่ างไรก็ต าม หากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ สติในการขับขี่ เ พ ร า ะยิ่งตกใจ ยิ่งทำให้สถานการณ์เ ล วร้ า ยลงมากยิ่งขึ้นด้วย และที่สำคัญก่อนขับขี่ ควรหมั่นตรวจสภาพรถในทุกครั้ง เพื่อความปลอ ด ภั ยอีกด้วย
ที่มา krustory